เจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตาราม
(บันทึกในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ ๔ เป็นต้นมา)
เจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตาราม
(บันทึกในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ ๔ เป็นต้นมา)
-
พระครูเขมาภิมุขธรรม ท่านเป็นชาวสุโขทัย เดิมอยู่วัดไชยฉิมพลี ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูเขมาภิมุขธรรม และไปครองวัดเขมาภิรตาราม ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระราชาคณะมีนามว่า พระเขมาภิมุขธรรม ครองวัดนี้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๙๗ จนถึง พ.ศ. ๒๔๐๖ เป็นระยะเวลา ๙ ปี
-
พระเขมาภิมุขธรรม เดิมเป็นพระครูสมุทรธรรมขันธ์ อยู่วัดเครือวัลย์ ได้รับสมณศักดิ์ เป็นพระเขมาภิมุขธรรม และย้ายจากวัดเครือวัลย์ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตาราม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๖ ครองวัดนี้อยู่จนถึง พ.ศ. ๒๔๒๒ เป็นระยะเวลา ๑๖ ปี
-
พระครูเขมาภิมุขธรรม (อิ่ม) ครองวัดเขมาภิรตารามตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๒ ถึง พ.ศ. ๒๔๒๗ เป็นระยะเวลา ๕ ปี
-
พระอริยกวี (อ่อน ธมฺมรกฺขิโต) เป็นชาวอุบลราชธานี (รูปเดียวกับที่เป็นพระอุปัชฌายะของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนา แห่งพระกรรมฐานยุคปัจจุบัน) เดิมเป็นพระครูวิสุทธิสรภาณ อยู่วัดบุรณศิริมาตยาราม ภายหลังได้เลื่อน เป็นพระอริยกวี ครองวัดเขมาภิรตาราม ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๘ จนถึง พ.ศ. ๒๔๓๓ เป็นระยะเวลา ๖ ปี
-
พระครูสถิตธรรมสโมธาน (สอน) เดิมท่านเป็นคนชาวบางใหญ่ นนทบุรี อยู่วัดบวรนิเวศ ย้ายไปรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตาราม พ.ศ. ๒๔๓๓ ครองวัดนี้อยู่จนถึง พ.ศ. ๒๔๔๑ รวมระยะเวลา ๘ ปี
-
พระวินัยรักขิต (คง ปญฺญาทีโป) เดิมเป็นชาวจังหวัดสงขลา ครองวัดเขมาภิรตารามนี้อยู่ ๒๐ ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๔๓ ถึง พ.ศ. ๒๔๖๓
-
พระเขมาภิมุขธรรม (นวล ยโส) เดิมเป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ครองวัดเขมาภิรตารามตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๔ ถึง พ.ศ. ๒๔๗๗ รวมระยะเวลา ๑๔ ปี
-
พระเขมาภิมุขธรรม (เกตุ) เดิมเป็นชาวอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ครองวัดเขมาภิรตารามตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๐๙ รวมเวลา ๓๓ ปี ในสมัยท่านได้บูรณะพระมหาเจดีย์ และค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ
-
พระธรรมรัชมงคล (จับ อุคฺคเสโน) เดิมเป็นชาวอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่วัดบวรนิเวศ มีสมณศักดิ์ที่พระจุลนายก ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตารามตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๙ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๑ และได้เลื่อน สมณศักดิ์เป็น พระราชสารสุธี พระเทพญาณกวี พระธรรมรัชมงคล ตามลำดับ
-
พระราชปฏิภาณโกศล (ละเอียด สลฺเลโข) บ้านเดิมท่านเป็นชาวอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่วัดราชาธิวาส มีสมณศักดิ์ที่พระครูวิจิตรธรรมคุณ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้ย้ายมาอยู่วัดเขมาฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระสุเมธีธรรมภาณ และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขมาฯ และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับโปรดเกล้าฯ เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปฏิภาณโกศล ครองวัดเขมาฯ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๖๒